"พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นจ้าวแห่งท้องทะเล แต่สำหรับฉัน พวกเขามีแต่กล้ามเนื้อที่ไร้สติปัญญา" แรคแฮมพูดโอ้อวดต่อหน้าลูกน้องในยามเมา ไม่มีใครกล้าโต้แย้งเขา แม้ว่าเขาจะมีเพียงเรือดัดแปลงจากเรือประมงสำหรับลักลอบขนของและลูกเรือเพียงไม่กี่คน เรือของเขาล่องทะเลมานานกว่าสิบปีโดยไม่เคยมีปัญหากับกลุ่มอื่น ๆ แม้บางครั้งจะมีโจรสลัดพยายามเข้ามาขัดขวาง แต่เมื่อแรคแฮมปรากฏตัว เขาก็สามารถเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตรได้ในพริบตา สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือกระเป๋าเงินของเขา ตอนที่แรคแฮมเริ่มเดินเรือครั้งแรก เขาเป็นเพียงหนุ่มน้อยที่ยากไร้ แต่ตอนนี้เขาต้องซื้อเกาะส่วนตัวเพราะทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้มากมาย ไม่มีใครรู้เรื่องราวในอดีตของแรคแฮม มีเพียงการคาดเดาจากคำพูดในยามเมาของเขา หลายปีก่อนเขาถูกโจรสลัดจับตัวไปเป็นทาส แต่ด้วยไหวพริบในการทำให้ลูกเรือต่างยอมรับ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากกัปตัน และค้าขายสินค้าบนเรือในตลาดมืดจนได้ทองคำแท่งแรกมา… หลังจากนั้น แรคแฮมไม่เคยเล่าต่อ แต่รู้กันว่ากลุ่มโจรสลัดที่เคยจับตัวเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงแรคแฮมที่ยังคงแล่นเรืออยู่ในทะเล แรคแฮมยังคงใช้วิถีชีวิตแบบนี้ต่อไป เขาไม่เคยสร้างศัตรูกับใครก่อน และไม่ให้ความสำคัญกับเรือใหญ่หรืออาวุธปืน ดูเหมือนจะเป็นเพียงลักลอบขนของที่ไม่มีความทะเยอทะยาน ในสายตาของโจรสลัดใหญ่ แรคแฮมคือคนลักลอบขนของในระดับเล็ก ๆ เป็นหนึ่งในพ่อค้าที่จ่ายค่าคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม นั่นคือผลลัพธ์ที่แรคแฮมต้องการ เขาใช้เสื้อผ้าขาด ๆ มาอำพรางความร่ำรวยและความทะเยอทะยานของตัวเอง และได้ขยายเครือข่ายการค้าลงไปถึงระดับล่างของเรือทุกลำโดยไม่รู้ตัว เมื่อโจรที่ท่าเรือพูดคุยเกี่ยวกับตลาดมืด พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าผู้ที่ควบคุมทุกอย่างคือชายที่ถือขวดเหล้ายืนอยู่ด้านหลัง พร้อมเก็บเกี่ยวข้อมูลข่าวสารที่มีค่าที่สุดในท้องทะเล หลายคนคิดว่าการควบคุมเรือใหญ่และปืนใหญ่คือความสำเร็จ แต่แรคแฮมรู้ดีว่านั่นเป็นเพียงภาพลวงตา สิ่งที่เขายึดมั่นคือนามธรรมที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือความโลภและความปรารถนาของเหล่าโจรสลัด โจรสลัดแสดงแสนยานุภาพเหมือนวาฬใหญ่ที่ล่องลอยในทะเล แต่กลับไม่เห็นหอกปลาที่แขวนอยู่เหนือหัว